แรนดัล โกโล มูอานี ยิงสองประตูช่วยให้ฝรั่งเศสเอาชนะเบลเยียมในแมตช์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์วุ่นวายที่กรุงบรัสเซลส์
ยูริ ติเลอมันส์ ยิงจุดโทษให้กับเจ้าบ้านหลังจาก วิลเลียม ซาลิบา ล้ม ลัวส์ โอเพนดา ตามคำตัดสินของผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (VAR)
จากนั้น ฝรั่งเศสก็ได้จุดโทษจากจังหวะที่ Wout Faes ปัดบอลออกไปที่พื้น จากนั้น Kolo Muani ก็จ่ายบอลไปผิดทางให้ Koen Casteels ผู้รักษาประตู ก่อนที่ประตูจะเริ่มต้นขึ้นในนาทีที่ 35
โอเพนดาตีเสมอให้กับเบลเยียมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกด้วยลูกโหม่งจากลูกครอสทางปีกซ้ายของทิโมธี คาสตาญญ่า ประตูนี้ถูกตัดสินว่าล้ำหน้า แต่ VAR เป็นผู้ตัดสิน
ฝรั่งเศสคิดว่าพวกเขากลับมาขึ้นนำอีกครั้งจากลูกยิงของ มานู โคน แต่ถูกปัดออกไปเนื่องจากเป็นแฮนด์บอลระหว่างการสร้างเกมโดย โคโล มูอานี
แต่โคโล มูอานี่ กองหน้าปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ก็มาทำประตูชัยในนาทีที่ 62 จากการโหม่งลูกครอสของลูกัส ดีญ
อย่างไรก็ตาม เลส์ เบลอส์ ได้เล่นในช่วง 14 นาทีสุดท้ายโดยเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อกัปตันทีม ออเรเลียน ชูอาเมนี โดนใบเหลืองใบที่สองจากการตัดบอลไปโดนตีเลอม็องส์นอกกรอบเขตโทษ
เบลเยียมพยายามจะตีเสมอแต่ทำไม่ได้
อิตาลีเอาชนะอิสราเอล 4-1 ในเกมอีกนัดของกลุ่มที่อูดิเน ซึ่งเป็นเกมแรกที่อิสราเอลเล่นนอกฮังการีในปีนี้
อิตาลีรั้งตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม A2 โดยมี 10 คะแนน ขณะที่ฝรั่งเศสตามหลัง 1 คะแนน ส่วนเบลเยียมซึ่งรั้งอันดับ 3 มี 4 คะแนน มีโอกาสไปเล่นเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้นสู่การตกชั้น